ISO 9001 เป็นมาตรฐานสำหรับระบบการจัดการคุณภาพที่มุ่งเน้นไปที่การตอบสนองความต้องการของลูกค้าและเพิ่มความพึงพอใจของพวกเขา ในขณะที่การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศอาจไม่มีผลโดยตรงต่อการดำเนินการตาม ISO 9001 แต่มีผลกระทบทางอ้อมที่สำคัญต่อองค์กรที่ได้รับการรับรองมาตรฐานนี้ ดังนี้:

• ความต้องการในการปรับตัวและความยืดหยุ่น: การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศทำให้เกิดความจำเป็นในการปรับปรุงกระบวนการและผลิตภัณฑ์เพื่อรับมือกับผลกระทบจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง เช่น การออกแบบผลิตภัณฑ์ที่ทนต่อสภาพอากาศที่รุนแรงหรือการพัฒนากระบวนการผลิตที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้นและใช้พลังงานน้อยลง
• ความต้องการสำหรับการจัดการความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น: ความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ เช่น ความเสี่ยงต่อการขาดแคลนทรัพยากร การเปลี่ยนแปลงในกฎหมายและข้อกำหนดเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม และความเสี่ยงต่อซัพพลายเชน จำเป็นต้องถูกพิจารณาและจัดการในกระบวนการจัดการความเสี่ยงของ ISO 9001
• ความต้องการเน้นย้ำการปรับปรุงต่อเนื่อง: การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศส่งเสริมให้องค์กรต้องมีการปรับปรุงอย่างต่อเนื่องในแง่ของการใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืนและการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม การนำระบบการจัดการคุณภาพที่มีประสิทธิภาพมาใช้สามารถช่วยให้องค์กรลดการใช้พลังงาน ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และลดการใช้วัตถุดิบได้
• ความต้องการเพิ่มขึ้นในการสื่อสารกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย: ลูกค้าและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียมีความต้องการเพิ่มขึ้นในการทราบถึงวิธีการที่องค์กรจัดการกับปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ การมีระบบการจัดการคุณภาพตาม ISO 9001 ช่วยให้องค์กรสามารถสื่อสารและแสดงถึงความพยายามในการจัดการกับปัญหาเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

โดยรวมแล้ว แม้ ISO 9001 จะไม่ได้มุ่งเน้นโดยตรงไปที่การลดการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ แต่การปฏิบัติตามมาตรฐานนี้และการมีระบบการจัดการคุณภาพที่มีประสิทธิภาพสามารถช่วยให้องค์กรสามารถรับมือและปรับตัวต่อผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศได้ดียิ่งขึ้น ทั้งนี้ การพัฒนาอย่างยั่งยืนและการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเป็นส่วนหนึ่งของการปรับปรุงต่อเนื่องที่ ISO 9001 สนับสนุน

ผู้ได้รับการรับรอง ISO 9001 สามารถช่วยลดผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศได้ในหลายวิธี โดยผ่านการดำเนินการตามหลักการของการจัดการคุณภาพที่เน้นการปรับปรุงต่อเนื่องและการเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการผลิตและการดำเนินงาน ดังนี้:

• การปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากร: ผู้ได้รับการรับรอง ISO 9001 สามารถระบุและนำประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากรมาปรับปรุง เช่น การลดการใช้น้ำและพลังงาน ซึ่งช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและผลกระทบต่อสภาพอากาศ
• การเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการ: โดยการทำให้กระบวนการทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น การปรับปรุงการจัดการวัตถุดิบและกระบวนการผลิต เพื่อลดการสูญเสียและของเสีย ช่วยให้สามารถลดภาระต่อสิ่งแวดล้อม
• การส่งเสริมนวัตกรรมและการพัฒนาอย่างยั่งยืน: การมุ่งเน้นที่การปรับปรุงอย่างต่อเนื่องและการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ สามารถรวมถึงการพัฒนาสินค้าและบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ลดผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ
• การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก: ผ่านการปรับปรุงและการจัดการลดการใช้พลังงานในกระบวนการผลิตและการดำเนินงานขององค์กร เช่น การเปลี่ยนไปใช้พลังงานหมุนเวียน การใช้พลังงานจากแหล่งที่ยั่งยืน
• การเพิ่มความตระหนักรู้และการฝึกอบรม: การฝึกอบรมพนักงานเกี่ยวกับการปฏิบัติตามมาตรฐาน ISO 9001 สามารถรวมถึงการส่งเสริมความตระหนักรู้เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ และวิธีการที่พนักงานสามารถช่วยลดผลกระทบต่อสภาพอากาศในการทำงานประจำวันของพวกเขา

ดังนั้น แม้ ISO 9001 จะไม่ได้มุ่งเน้นไปที่การลดการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศโดยตรง แต่การดำเนินการตามมาตรฐานนี้สามารถเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ขององค์กรในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศได้

ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างข้อกำหนดลูกค้าที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่อาจมีตามมากับการรับรอง ISO 9001:

• การปรับเปลี่ยนแผนธุรกิจและกระบวนการ: ลูกค้าอาจต้องการให้องค์กรปรับแผนธุรกิจและกระบวนการการผลิตเพื่อให้เหมาะสมกับสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลง อาจมีการต้องปรับปรุงกระบวนการผลิตเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกหรือใช้พลังงานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นเป็นต้น
• การบริหารความเสี่ยง: การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอาจมีผลกระทบต่อการบริหารความเสี่ยงขององค์กร ลูกค้าอาจต้องการให้มั่นใจว่าองค์กรมีการบริหารความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับสภาพภูมิอากาศอย่างเหมาะสม
• การรายงาน: ลูกค้าอาจต้องการข้อมูลเกี่ยวกับการประเมินผลของการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ อาจจำเป็นต้องรายงานผลการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกหรือผลการใช้พลังงานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น
• การปรับปรุงต่อเนื่อง: ลูกค้าอาจต้องการให้องค์กรมีการปรับปรุงต่อเนื่องเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การปรับปรุงนี้อาจเป็นการปรับปรุงในกระบวนการผลิตหรือการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับสภาพภูมิอากาศใหม่
• การร่วมมือกับภาคส่วนต่าง ๆ: ลูกค้าอาจต้องการให้องค์กรมีการร่วมมือกับภาคส่วนต่าง ๆ เพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ อาจมีการร่วมมือกับภาครัฐ ภาคธุรกิจ หรือองค์กรสิ่งแวดล้อมเพื่อกำหนดนโยบายหรือแผนการทำงานที่เหมาะสม

การปรับปรุงและการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอาจจำเป็นต่อความสำเร็จของธุรกิจและการรับรอง ISO 9001 ดังนั้น องค์กรควรให้ความสำคัญกับการปรับตัวและการดำเนินงานที่มีระเบียบและมีเป้าหมายที่ชัดเจนเพื่อรับมือกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในสภาพภูมิอากาศในอนาคต