การจัดการสิ่งแวดล้อมผ่านคู่ค้าทางธุรกิจสามารถทำได้หลายวิธีและมีหลายแนวทาง ในที่นี้ขอเสนอตัวอย่างไว้ 6 วิธี ดังนี้
1. การสร้างความเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับบริษัทคู่ค้าของตน
วิธีการนี้จำทำให้ทั้งบริษัทผู้ซื้อและบริษัทคู่ค้าทั้งที่เป็นซัพพลายเออร์และผู้รับเหมาที่อยู่ในห่วงโซ่อุปทานทางของธุรกิจได้รับประโยชน์จากการร่วมมือกันปรับปรุงการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อมและปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงานของบริษัท ซึ่งประโยชน์เหล่านี้ได้แก่
- ทำให้เกิดประสิทธิภาพการดำเนินงานสูงสุดและช่วยลดการเกิดของเสียให้น้อยที่สุด เพราะในการดำเนินการปรับปรุงการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อมที่ดีต้องเริ่มตั้งแต่ขั้นตอนการวางแผน การออกแบบผลิตภัณฑ์ และการจัดหาวัตถุดิบ ซึ่งในส่วนนี้ซัพพลายเออร์ย่อมรู้จักผลิตภัณฑ์ของตนมากกว่าบริษัทผู้ซื้อ หากซัพพลายเออร์สามารถปรับปรุงผลิตภํณฑ์ของตนให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น ก็จะยิ่งส่งเสริมนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมของบริษัทผู้ซื้อได้มากยิ่งขึ้น
- ทั้งสองฝ่ายต่างได้รับประโยชน์และต่างช่วยประหยัดต้นทุนการผลิตของตนเพราะการที่ซัพพลายเออร์มีการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพมายิ่งขึ้น แสดงว่ามีผลผลิตมากยิ่งขึ้นในขณะที่ต้นทุนการผลิตต่อหน่วยผลิตภัณฑ์ลดลง ทำให้บริษัทผู้ซื้อสามารถซื้อวัสดุอุปกรณ์หรือวัตถุดิบในการผลิตที่มีราคาถูกลง
- เป็นการกระชับความสัมพันธ์ของซัพพลายเออร์และบริษัทผู้ซื้อให้แนบแน่นยิ่งขึ้น
- ในการออกแบบผลิตภัณฑ์และการบวนการผลิตให้มีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ต้องการมุมมองหลาย ๆ มุมจากบุคคลในสาขาอาชีพต่าง ช่วยในกระบวนการนี้ ซึ่งย่อมดีกว่าใช้บุคคลเพียงคนเดียวทำงาน
ตัวอย่างของการสร้างความเป็นพัธมิตรทางธุรกิจระหว่างบริษัทผู้ซื้อและซัพพลายเออร์ได้แก่
- โครงการความร่วมมือในการออกแบบผลิตภัณฑ์และกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
- การแบ่งปันหรือให้เครื่องมือเพื่อช่วยให้ซัพพลายเออร์เกดการปรับปรุงด้านสิ่งแวดล้อม
- ร่วมมือกันทำวิจัยเรื่องการหาวัตถุดิบ ผลิตภัณฑ์ อุปกรณ์ และการบวนการอื่น ๆ ที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมตลอดวงจรชีวิตผลิตภัณฑ์ น้อยกว่าเดิม
- การให้ซัพพลายเออร์ช่วยจัดการสินค้าคงคลัง (inventory) เช่น สารเคมีอุปกรณ์ทำความสะอาด อุปกรณ์ในห้องทดลอง เครื่องใช้ในสำนักงาน ฯลฯ
- วางแนวทางในการรับสินค้าหรือบรรจุภัณฑ์ที่ไม่ใช้แล้วกลับคืนมาและนำมาแปรรูปกลับไปใช่ใหม่ หรือนำกับไปปรับปรุงใหม่เพื่อใช้ซ้ำ (refurbish)
การดำเนินการโดยใช้วิธีการสร้างพันธมิตรทางธุรกิจกับซัพพลายเออร์ ควรทำเนินการดังนี้
- ให้บริษัทซัพพลายเออร์เข้ามามีส่วนร่วมหรือมอบหมายงานแต่เนิ่น ๆ เพื่อจะช่วยในการพัฒนาสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมได้มากยิ่งขึ้น เพราะระยะเวลาตั้งแต่การวางแผนการดำเนินงานจนถึงผลผลิตที่ได้ออกมาจากการผลิตจะใช้เวลานาน
- จัดลำดับความสำคัญของโอกาสในการปรับปรุงที่ซัพพลายเออร์สามารถเข้าไปช่วยแก้ปัญหาให้ได้โดยการ
- รวบรวมทีมงานที่มีบุคลากรมาจากหลายสาขาชีพ ได้แก่ จากฝ่ายบริหาร ฝ่ายออกแบบ ฝ่ายการผลิต ฝ่ายจัดซื้อ ฝ่ายบริหารจัดการของเสีย อื่น ๆ มาเป็นทีมงานเพื่อระดมความคิดเห็นหาวิธีการปรับปรุงผลิตภัณฑ์และการบวนการผลิต
- ประเมินผลกระทบตลอดวงจรชีวิตทั้งของผลิตภัณฑ์ของบริษัทและของซัพพลายเออร์
- ประเมินการปฏิบัติงานในฝ่ายการผลิต ในสำนักงาน ฝ่ายสินค้าคงคลัง และฝ่ายอื่น ๆ โยใช้ระบบการจัดการ เป้าหมาย หรือนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมมาช่วยในการตัดสินใจว่ามีการปฏิบัติงานในสาขาใดบ้างที่จำเป็นต้องปรับปรุง
- ขอคำแนะนำจากซัพพลายเออร์
- จัดลำดับความสำคัญของโอกาสในการปรับปรุงที่ได้บ่งชี้ไว้ในข้อ (2) และกำหนดแผนปฏิบัติงานเพื่อดำเนินการปรับปรุงต่อไป โดยอาจทำได้ด้วยวิธีใดวิธีหนึ่งต่อไปนี้
- เริ่มในจุดที่เป็นต้นเหตุของการสูญเสียเงินมากที่สุด
- ให้ความสำคัญต่อผลิตภัณฑ์หรือกระบวนการที่ก่อให้เกิดมลพิษหรือทำให้เกิด ปริมาณของเสียมากที่สุด
- เน้นการปฏิบัติงานที่พนักงานในองค์กรของบริษัทผู้ซื้อไม่มีความถนัดหรือเวลาที่จะแก้ปัญหาได้ เช่น การจัดการสารเคมีคงคลัง, just-in-time inventory บรรจุภัณฑ์ที่นำกลับมาใช้ซ้ำได้ การใช้สารละลายตัวอื่นที่เป็นพิษน้อยกว่า การลดการใช้พลังงาน การนำเศษเหลือทิ้งมาเผาเพื่อให้ได้พลังงานกลับใช้หรือนำไปปรับปรุงเพื่อเอากลับมาใช้ใหม่
- เริ่มดำเนินการร่วมกับซัพพลายเออร์ 1-2 รายที่มีชื่อเสียงในเรื่องการให้สินค้าและบริการที่มีคุณภาพ ที่แสดงความสนใจปรือมีการริเริ่มการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อม หรือที่มีการติดต่อกันทางธุรกิจกับบริษัทมายาวนาน
- จัดหาซัพพลายเออร์ที่เต็มใจจะช่วยให้ลูกค้าของตนสามารถบรรลุผลการดำเนินงานตามเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อมได้ เช่น Eli Lilly and Company ค้นหาบริษัทซัพพลายเออร์ก๊าซรายใหม่ที่ยองรับถังก๊าซเปล่ากลับไปใช้ใหม่ได้ แทนซัพพลายเออร์เก่าซึ่งปฏิเสธที่จะทำ หรือการที่บริษัท Anheuser-Busch ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตเครื่องดื่ม ร่วมมือกับบริษัทผู้ผลิตกระป๋องอลูมิเนียมหาทางลดความหนาของประป๋อง และเส้นผ่านศูนย์กลางของฝาปิด ซึ่งผลที่ได้รับคือสามารถลดน้ำหนักของกระป๋องอลูมิเนียมได้ร้อยละ 30 และทำการเปลี่ยนแปลงรูปแบบของกระป๋องอลูมินียมไปทั่ว ทั้งวงการอุตสาหกรรม
- หากเป็นไปได้ ควรจัดทำเงื่อนไขและข้อตกลงการเป็นพันธมิตรกันระหว่างบริษัทผู้ซื้อและซัพพลายเออร์ โดยควรพิจารณาว่า
- หากร่วมมือกันเพื่อเป็นการประหยัดต้นทุน เงินที่ได้กลับคืนมาจะเพียงพอสำหรับผู้เกี่ยวข้องแต่ละฝ่ายหรือไม่
- จำเป็นหรือไม่ที่จะต้องจ่ายเงินสำหรับการเข้ามามีส่วนร่วมหรือบริการเพิ่มเติมของซัพพลายเออร์
- จำเป็นที่จะต้องทำให้เป็นข้อตกลงอย่างเป็นทางการหรือไม่ หรือทำแค่ข้อตกลงอย่างไม่เป็นทางการก็พอ
- ทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงหรือหาบุคลากรจากบริษัทอื่นมาช่วยเป็นพี่เลี้ยงให้กับซัพพลายเออร์เพื่อช่วยในการดำเนินการด้านสิ่งแวดล้อม เช่น GM จัดทำโครงการ GM Lean Implementation Program โดยบริษัทจะทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงให้กับซัพพลายเออร์ในเรื่องสิ่งแวดล้อมและเรื่องการจัดการธุรกิจด้านอื่น ๆ หรือโครงการ GM’ Supplier Environmental Advisory Team ซึ่งจะรวบรวมแบบตอบรับหรือข้อมูลที่ได้จากซัพพลายเออร์หลัก ๆ เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการปรับปรุงโครงการด้านสิ่งแวดล้อมของบริษัท
- จูงใจคู่ค้าที่อยู่ในห่วงโซ่อุปทานของธุรกิจทั้งที่เป็นซัพพลายเออร์ และที่เป็นลูกค้า โดยใช้แนวคิด ข้อเสนอ และโครงการริเริ่มด้านการลดของเสีย เช่น บริษัท NACHI สร้างความเชื่อมั่นให้หนึ่งในลูกค้ารายใหญ่ที่สุดให้เริ่มใช้ระบบบรรจุภัณฑ์ที่สามารถนำไปรีไซเคิลได้ โดยอาศัยข้อมูลและความเพียรพยายามในการชัดจูงลูกค้า